|
|
  |
 |
ประวัติความเป็นมา |
|
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ทรงโปรดเกล้าฯให้สร้างเมืองนครเขื่อนขันธ์และทรงพระราชทานชื่อว่า"เมืองนครเขื่อนขันธ์"หรือที่เรียกว่า"ปากลัด"อันเนื่องมาจากมีคลองลัดแม่น้ำเจ้าพระยาที่สำคัญคือคลองลัดโพธิ์โดเมืองนครเขื่อนขันธ์ตั้งอยู่บนส่วนที่แคบที่สุดอันเป็นคลองระหว่างปากคลองลัด
ทั้งสองคือปากคลองลัดโพธิ์อยู่ทางทิศเหนือ และปากคลองลัดหลวงอยู่ทางทิศใต้ ปลายคลองลัดทั้งสองทะลุออกออกแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสองข้างดังนั้น พระประแดง ปากลัดหรือนครเขื่อนขันธ์ก็ถือว่าเป็นสถานที่เดียวกัน คือ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการในปัจจุบันนั่นเองนอกจากนี้เมืองพระประแดงปากลัดหรือเมืองนครเขื่อนขันธ์แห่งนี้มีบทบาทในฐานะเป็นเมืองหน้าด่านทางะเลที่สำคัญมีป้อมปราการอันมั่นคงและมีคลองลัดที่สามารถย่นระยะการเดินทางจากกรุงเทพมหานครและปากน้ำโดยไม่ต้องอ้อมคุ้งน้ำเจ้าพระยาและเมืองพระประแดงยังเป็นที่อยู่อาศัยของชาวมอญที่เรียกว่ามอญปากลัดวิถีชีวิตในการดำรงชีวิตการทำมาหากินในย่านเมืองพระประแดงแห่งนี้ยังเป็นย่านธุรกิจการค้าการขยายที่สำคัญ อีกแห่งหนึ่งด้วยและต่อมาเทศบาลเมืองพระประแดงได้จัดตั้งตามราชกฤษฎีกาจัดตั้งเทศบาล เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2480 โดยยกฐานะชุมชนในบางส่วนของตำบลเชียงใหม่ ตำบลทรงคนองและตำบลตลาดอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ รวมเป็นตำบลเดียวได้แก่ตำบลตลาดและยกฐานะขึ้นเป็นเทศบาลเมืองพระประแดงเดิมเคยเป็นที่ตั้งศาลากลางจังหวัดมาก่อนนั้นคืออำเภอพระประแดงแห่งนี้เคยเป็นจังหวัดพระประแดงและได้ถูกยุบจากจังหวัดเป็นอำเภอขึ้นกับจังหวัดสมุทรปราการและสำนักงานอาคารเทศบาลเมืองพระประแดงในปัจจุบันสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2526 ตั้งอยู่เลขที่ 1 ถนนพระยาพายัพพิริยะกิจ ตำบลตลาด อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการซึ่งบริเวณโดยรอบของตัวอาคารสำนักงานเทศบาลฯนั้นเป็นตลาดและอาคารพาณิชย์และสำหรับคำขวัญประจำเทศบาลเมืองพระประแดง คือ "ถิ่นสาวงาม เมืองมอญ นามนครเขื่อนขันธ์"
|
 |
ที่ตั้ง อาณาเขต และเขตการปกครอง |
|
เทศบาลเมืองพระประแดงมีพื้นที่ 0.6115 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นเทศบาลที่เกือบจะมีพื้นที่เล็กที่สุดในประเทศไทยแต่ถึงจะมีพื้นที่อยู่อย่างจำกัดและยากที่จะขยายให้มากขึ้นได้ศักยภาพ ของผู้คนและเอกลักษณ์ของเมืองก็ยังส่งผลให้พระประแดงในวันนี้ได้กลายเป็นชุมชนเมืองที่มีความเจริญและก้าวหน้าอย่างรวดเร็วซึ่งสภาพพื้นที่เดิมของพระประแดงแต่ก่อนนั้นเป็น เรือกสวนไร่นา มีคลองลัดตะนงไหลผ่านมีแม่น้ำเจ้าพระยาขนาบด้านทิศตะวันออกและคลองลัดหลวงขนาบอยู่ทางด้านทิศตะวันตกส่งผลให้ผู้คนของที่นี้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลักอีกทั้งความอำนวยของพื้นที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเมืองพระประแดงจึงถือเป็นเมืองที่มีบทบาทสำคัญของเมืองหน้าด่านซึ่งเป็นจุดเชื่อมของการเป็นเมืองการค้าและพาณิชยกรรมตั้งแต่ครั้งอดีตจนถึงปัจจุบัน
เทศบาลเมืองพระประแดงตั้งอยู่ในเขตอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาตอนปลายสุดของแม่น้ำเจ้าพระยาและเหนืออ่าวไทย ตั้งอยู่ภาคกลางของประเทศไทยห่างจากกรุงเทพมหานคร ประมาณ 25 กิโลเมตร โดยมีอาณาเขตติดต่อด้วยนี้ |
|
ทิศเหนือ |
ติดต่อกับ |
เขตองค์การบริหารส่วนตำบลทรงคะนอง |
ทิศใต้ |
ติดต่อกับ |
แม่น้ำเจ้าพระยาและเขตเทศบาลเมืองลัดหลวง |
ทิศตะวันออก |
ติดต่อกับ |
แม่น้ำเจ้าพระยาและเขตเทศบาลเมืองปู่เจ้าสมิงพราย |
ทิศตะวันตก |
ติดต่อกับ |
เขตเทศบาลเมืองลัดหลวง |
|
 |
ลักษณะภูมิประเทศและภูมิอากาศ |
|
ภูมิประเทศ ส่วนใหญ่พื้นที่เป็นที่ราบลุ่มมีแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านและมีลำคลองมากโดยเขตเทศบาลเมืองพระประแดงตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งเป็นที่ราบลุ่มเหมาะสำหรับการทำนาทำสวน แต่โดยสภาพพื้นที่ที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน พื้นที่เขตเทศบาลฯได้ใช้เป็นพื้นที่เพื่อการอยู่อาศัยและพื้นที่การค้าซึ่งภายในเขตเทศบาลฯปัจจุบันนี้ไม่มีพื้นที่สำหรับการทำสวนทำนาอีกแล้วเป็นพื้นที่สำหรับการพาณิชยกรรม การค้า การขาย การแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการภูมิอากาศ ส่วนใหญ่เป็นอากาศแบบชายทะเล อากาศเย็นไม่ร้อนจัด ในฤดูร้อนเป็นร้อนมีความชื้นในอากาศสูง เนื่องจากอิทธิพลจากลมทะเลและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีปริมาณฝนตกมากช่วงเดือนกันยายนและตุลาคม เดือนกันยายนเป็นเดือนซึ่งมีน้ำฝนมากที่สุดและเดือนธันวาคมเป็นเดือนซึ่งมีปริมาณฝนน้อยที่สุด สภาพอากาศเป็นไปตามฤดูกาล |
 |
สภาพทางเศรษฐกิจ |
|
ความเจริญเติบโตด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมได้ส่งผลให้เมืองพระประแดงผันตัวจากเมือsงแห่งการเกษตรกรรมเข้าสู่วิวัฒนาการของเมืองการค้าและพาณิชย์เป็นหลัก เนื่องจากว่าความต้องการในสินค้าและการบริการมีมากเพราะเป็นแหล่งชุมชน อีกทั้งเป็นเส้นทางผ่านเข้าสู่เขตอุสาหกรรมของจังหวัด รวมทั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรม
ดังนั้นพระประแดงในปัจจุบันได้กลายเป็นพื้นที่เพื่อการอยู่อาศัยและเพื่อการค้าผู้คนส่วนใหญ่ของที่นี้ประกอบอาชีพรับจ้างและค้าขายสภาพเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมของพระประแดงจึงกลายเป็นเมืองศูนย์รวมของการพาณิชย์ถึงปัจจุบันดังนั้นความต้องการอาหารของใช้จำเป็นและที่อยู่อาศัยจะเห็นได้ว่าสถานประกอบกิจการส่วนใหญ่ในเขตอำเภอพระประแดง เช่น จำหน่ายข้าวสาร น้ำตาลทราย เครื่องดื่มนมของชำ ของเบ็ดเตล็ด สุรา บุหรี่ น้ำดื่มอาหารสด-อาหารแห้ง อาหารสำเร็จรูปเป็นต้น นอกจากนั้นเป็นการประกอบกิจการค้าขายเฉพาะอย่าง เช่น ร้านทอง ร้านขายผ้า ตลาดโต้รุ่ง เป็นต้น ในเขตเทศบาลเมืองพระประแดงประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพค้าขาย เป็นตัวแทนค้าปลีกและส่ง มีตลาดเทศบาล จำนวน 4 แห่ง ตลาดเอกชน จำนวน 2 แห่ง สถานธนานุบาล จำนวน 1 แห่ง และธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆภายในเขตเทศบาล จำนวน 4 แห่ง ภายในเขตพื้นที่บริการ 0.6115 ตารางกิโลเมตร |
|
|
|
ตารางที่ 2.2 ตางรางแสดงจำนวนรายละเอียดข้อมูลตลาดภายในเขตเทศบาลเมืองพระประแดง
ชื่อตลาด |
จำนวน (แห่ง) |
จำนวน (ราย) |
จำนวน (แผง) |
1.ตลาดเอกชน |
2 |
65 |
65 |
2.ตลาดท่าหิน |
1 |
35 |
87 |
3.ตลาดหน้าวัดพญาปราบฯ |
1 |
19 |
38 |
4.ตลาดลานทราย |
1 |
262 |
686 |
5.ตลาดหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมือง |
1 |
315 |
752 |
|
 |
สภาพทางการคมนาคม |
|
การคมนาคมภายในเขตเทศบาลเมืองพระประแดง ประชาชนสามารถสัญจรไป-มาได้อย่างสะดวกและรวดเร็วได้จำนวน 2 เส้นทาง คือ ทางบกและทางน้ำ ดังนี้ |
|
ทางบก ในเขตเทศบาลฯมีถนนสายหลัก 6 สายที่ใช้ในการสัญจรไป-มาของประชาชน ได้แก่ 1.)ถนนศรีเขื่อนขันธ์ 2.)ถนนนครเขื่อนขันธ์ 3.)ถนนพระยาพายัพพิริยะกิจ 4.)ถนนพระยาดำรงราชพลขันธ์ 5.)ถนนเพชรหึงษ์ 6.)ถนนทรงธรรม ซึ่งนครเขื่อนขันธ์จะเชื่อมต่อระหว่างจังหวัดสมุทรปราการและกรุงเทพมหานครโดยผ่านถนนสุขสวัสดิ์นอกจากนี้ในเขตจังหวัดสมุทรปราการยังมีถนนที่เชื่อมต่อกับจังหวัดใกล้เคียงและกรุงเทพมหานครมีถนนสายหลักๆตัดผ่านไปยังจังหวัดสมุทรปราการและใกล้เคียงหลายสาย เช่น ถนนปู่เจ้าสมิงพลาย และยังมีถนนเชื่อมต่อระหว่างอำเภอต่างๆในจังหวัด เช่น ถนนเพชรหึงษ์-บางกอบัว ยานพาหนะนอกจากจะใช้รถยนต์ส่วนตัว หรือ พาหนะอื่นๆในการเดินทางภายในจังหวัดแล้วยังสามารถใช้บริการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯและบริการรถโดยสารของเอกชนได้อีกด้วย ซึ่งทำให้การเดินทางเข้ามากรุงเทพมหานครมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น |
|
ทางน้ำ จังหวัดสมุทรปราการตั้งอยู่ 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาโดยเขตเทศบาลเมืองพระประแดงตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ดังนั้น การติดต่อคมนาคมทางน้ำก็จะอาศัยเรือข้ามฝากและมีแพขนานรถยนต์สำหรับบรรทุกรถยนต์ขนส่งสินค้าหรือวัตถุดิบให้กับโรงงานอุตสาหกรรมทั้งสองฝั่ง และระบายสินค้าทางด้านอุตสาหกรรมไปยังตลาดภายในจังหวัดสมุทรปราการ กรุงเทพมหานครหรือจังหวัดอื่นๆอีกด้วย |
 |
สภาพทางสังคม |
|
ชุมชนภายในเขตเทศบาลเมืองพระประแดงมีทั้งสิ้น 9 ชุมชน มีจำนวนบ้านทั้งหมดที่รับผิดชอบ จำนวน 2,169 หลังคมเรือน มีจำนวนประชากรแยกตามเพศจำนวน 10,210 คน แบ่งเป็น เพศชาย 4,908 คน เพศหญิง 5,302 คน |
|
ชุมชน |
จำนวนบ้านทั้งหมด |
จำนวนประชากรตามชุมชน |
รวม |
|
|
เพศชาย |
เพศหญิง |
|
*ไม่มีกำหนดชุมชน |
7 |
44 |
32 |
76 |
1.บ้านพักราชการตำรวจ |
95 |
170 |
122 |
292 |
2.หลักเมือง |
104 |
939 |
960 |
1,899 |
3.กรมทรัพยากรธรณี |
108 |
125 |
99 |
224 |
4.วัดโมกข์-วัดแค |
90 |
266 |
251 |
517 |
5.บ้านดัง |
151 |
204 |
288 |
492 |
6.วัดโรมันคาทอลิค |
262 |
538 |
646 |
1,184 |
7.ชุมชนพาณิช |
345 |
408 |
452 |
860 |
8.บ้านแซ่ |
514 |
630 |
838 |
1,468 |
9.ลัดตะนง |
493 |
1,584 |
1,614 |
3,198 |
รวม |
2,169 |
4,908 |
5,302 |
10,210 |
|
|
ชาวพระประแดงในปัจจุบันถือศาสนาต่างกันไปทั้ง ศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม ดังจะเห็นได้จาก ศาสนสถานต่างๆในพุทธศาสนา เช่น วัดดวงหทัยนิรมลของแม่พระและมัสยิดดารอสอาดะห์ของศาสนาอิสลามศาสนสถานเหล่านี้เป็นศูนย์รวมจิตใจให้ชาวพระประแดงได้ประกอบกิจกรรมทางศาสนาและน้อมนำจิตใจให้กระทำความดี ชาวพระประแดงจึงเป็นผู้มีจิตใจแจ่มใสเบิกบานดำเนินตามหลักคำสอนของศาสนาที่ตนเองนับถือ ซึ่งนอกจากนี้ศาสนาใดก็อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข นับตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษและสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองซึ่งถือว่าเป็นศูนย์รวมความศรัทธา อันได้แก่ องค์เจ้าพ่อหลักเมือง (พระพิฆเนศ) ที่ประดิษฐานอยู่บนเสาหลักเมือง ณ ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองพระประแดงในฐานะเป็นหลักเมืองของชาวเมืองพระประแดงและวัดทรงธรรมวรวิหารพุทธสถานศักดิ์สิทธิ์ที่มีความงดงามเป็นอย่างยิ่ง |
|
|
|
Back |